นักลงทุน มองหุ้นไทยยังเสี่ยงแม้ลดดอกเบี้ยเหลือ 1% แนะกระจายสินทรัพย์

นักลงทุน

นักลงทุน รุ่นใหม่มองหุ้นไทยภาพกว้างที่ยังเป็นขาลงและ P/E ยังสูง แม้มีการปรับลดดอกเบี้ยลงเหลือเพียง 1% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่กังวลผลตอบแทนตลาดเงินลดลงตามดอกเบี้ย ที่กระจายเงินลงทุนหุ้นปันผล ของกอง RIET โดยรวมถึงสินทรัพย์ ดิจิทัล ที่กำลังมีแนวโน้มขาขึ้น      นักลงทุน รุ่นใหม่ของหุ้นไทย นายณพวีร์ พุกกะมาน ผู้บริหารส่วนภูมิภาค จีเอ็มไอ เอดจ์ กลุ่มสถาบันการเงินจากประเทศอังกฤษ และผู้ก่อตั้ง Creative Investment Space สถาบันที่ให้ความรู้ในด้านนวัตรกรรม  การลงทุนในรูปแบบใหม่ที่มองว่าการที่ กนง. ได้มีการลงมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเหลือ 1% ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุดตั้งแต่ที่ประเทศไทย มีการใช้นโยบายทางการเงิน   ที่ส่งผลในเชิงบวกต่อตลาดหุ้นของไทย โดยที่ที่ถือว่าเป็นยาแรงที่เจ้ามากระตุ้นเศรษฐกิจไทยหลังจากที่มีปัจจัยลบที่เกิดขึ้นมาใหม่ คือ ไวรัสโคโรนา ที่ก่อนหน้านี้นั้นมีปัจจัยเรื่องงบประมาณรายจ่ายที่ล่าช้า ที่รวมถึงเหตุภัยแล้งอยู่แล้ว กับสิ่งที่เกิดขึ้นคือ SET Index ที่ปรับขึ้น 14 จุด ที่เมื่อวานนี้แต่ความเสี่ยงในตลาดหุ้นไทยที่ยังมีอยู่ สิ่งที่ตามมาหลังจากที่มีการลดดอกเบี้ย ก็คือการตอบแทนในทุนตลาดเงิน ที่เนื่องมาจากพันธบัตรส่วนใหญ่ที่จะอ้างอิงจากผลตอบแทน จากดอกเบี้ยที่รวมถึงอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ที่มีโอกาสปรับตัวลดลง ที่ทำให้นักลงทุนต้องมีการปรับพอร์ตเพื่อหาสินทรัพย์ที่ยังสร้างผลตอบแทนได้ดี ที่นอกจากนี้สินทรัพย์อย่าง กอง REIT และยังน่าสนใจในการลงทุนเพราะไม่ได้รับผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำมากนักหากลงทุนในโครงการที่สร้างกระแสเงินสดได้ต่อเนื่อง ขณะที่ทองคำช่วงนี้อาจจะมีการพักตัวบ้าง และภาพรวมทางเทคนิคในระยะกลางถึงยาวยังคงแนวโน้มขาขึ้นอยู่ ที่ช่วงนี้ที่ราคาย่อตัวลงมายังมองเป็นโอกาสในการเข้าลงทุนได้ CR. UFABET1688

Read More

PRINCIPAL IPROPEN เป็น 2 หมื่น ลบ. พร้อมจ่ายปันผลที่ 0.20บ./หน่วย

PRINCIPAL IPROPEN

PRINCIPAL IPROPEN หรือ บลจ. พรินซิเพิล จำกัด โดย นายวิน พรหมแพทย์ CFA ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน ได้ออกมาเผยว่า ทางบริษัทได้รับการอนุมัติจากทางสำนักงานคณะกรรมการการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ ก.ล.ต. ให้เพิ่มเงินทุนจดทะเบียนของกองทุนเปิด PRINCIPAL IPROPEN : Principal Enhanced Property and Infrastructure Flex Income Fund  เป็นจำนวนวนเงิน 20,000 ล้าน บา หรือ 2,000 พันหน่วย จากเดิมที่มีเงินทุน ที่จดทะเบียน 5,000 ล้านบาท หรือ 500 ล้านหน่วย เพื่อขยายขนาด ของกองทุนรองรับผู้ที่สนใจ ที่สามารถเข้าซื้อหน่วยลงทุนเพิ่มเติม หลังจากเปิดตัวและเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก IPO ในเดือน พฤศจิกายน ที่ผ่านมา กลยุทธ์ของทางกองทุนฯ ดังกล่าว ที่เน้นการกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีคุณภาพดีและรายได้จากค่าเช่าที่มั่นคงของ เอเชีย-แปซิฟิก โดยที่เพิ่มความยืดหยุ่นในการลงทุนให้สามารถเพิ่มสัดส่วนของการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานได้มากขึ้น และสามารถลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ และโครงพื้นฐานอีกด้วย นอกจากนี้ ยังกระจายความเสี่ยงการลงทุนสินทรัพย์ ที่หลากหลายในประเทศ และขยายขอบเขตของการลงทุนแบบ Freehold หรือ ลงทุนในกรรมสิทธิ์ ตลอดจนบริหารจัดการโดยทีมของผู้เชี่ยวชาญในการลงทุน REITs ของกลุ่ม พรินซิเพิล ที่ได้กล่าวไว้ในขณะที่เตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุน ในอัตรา 0.20 บาท ต่อหน่วย สำหรับงวดบัญชี 30 พฤศจิกายน 2562 ที่นับเป็นการจ่ายครั้งที่ 31 ของกองทุนฯ และเป็นการกระจายที่เป็นเงินปันผลต่อเนื่อง ที่นับไตรมาส 2/55 โดยที่กำหนด ปิดสมุดทะเบียนถือหุ้นในวันที่ 30 ธันวาคม 62 ซึ่งจะถึงวันที่ 29 ธันวาคม…

Read More