ตลาดหุ้นไทย ปิดบวกเช้า 4.36 จุด ตลาดแกว่งตัวช่วงลุ้นผลประชุม กนง.

ตลาดหุ้นไทย

ตลาดหุ้นไทย ที่ตลาดหลักทรัพย์ ฯ ปิดช่วงเช้าของวันนี้ ไว้ที่ 1,523.74 จุด ที่เพิ่มขึ้นมา 4.36 จุด หรือ +0.29% ที่เป็นมูลค่าของการซื้อขายอยู่ที่ 30,202.51 ล้านบาท ของการซื้อขายหุ้น ของช่วงเช้าวันนี้ ที่ดัชนีไทย มีความเคลื่อนไหวทั้งในแดน บวก-ลบ โดยที่มีการทำระดับสูงสุดอยู่ที่ 1,527.92 จุด และทำระดับต่ำสุดอยู่ที่ 1,516.55 จุด ตลาดหุ้นไทย ในแดนบวก-ลบ โดย นางสาว ธีรด ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายการวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ที่กล่าวไว้ว่า หุ้นไทยเข้าวันนี้มีความแกว่งตัวสูงมาก ทางด้านข้างของ ดัชนี ที่มีความเคลื่อนไหวทั้งแดนบวกและลบ ในช่วงของการรอผลการประชุม คณะกรรมการยบายการเงิน (กนง.) ของบ่ายวันนี้ ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย หรือไม่ ในขณะที่ในสถาณการณ์ของไวรัสโคโรนายังเป็นที่ตามติดอยู่อย่างใกล้ชิด ทางด้านของตลาดหุ้น ในส่วนของภูมิภาคหุ้นเอเชีย ในช่วงเช้า ที่จะอิงไปทางบวก ซึ่งจะเป็นการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องจากของเมื่อวาน โดยหลังจากที่จีนได้ออก มาตรการของการกระตุ้นเศรษฐกิจทำให้มาช่วยหนุตลาดหุ้นจีน และตลาดก็ได้ปรับตัวลงไปมากแล้ว ประกอบกับสถานการณ์ไวรัส ก็ไม่ได้แย่ลงหรือรุนแรง จึงทำให้เริ่มเห็นการทรงตัว ส่วนบ้านเราทางภาครัฐฯก็ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์ไวรัสโคโรนาให้กับผู้ประกอบการเช่นกัน แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ น.ส.ธีรดา กล่าวว่า ตลาดฯมีโอกาสผันผวน ซึ่งหากกนง.ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ก็ไม่ได้ช่วยอะไรมาก เพราะปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยก็ต่ำอยู่แล้ว คงจะช่วยในแง่ Sentiment เท่านั้น แต่กลุ่มแบงก์อาจเป็นภาพ Negative และผลกระทบจากไวรัสโคโรนาก็ยังมีต่อเนื่อง พร้อมให้แนวรับ 1,510-1,515 จุด ส่วนแนวต้าน 1,530 จุด ในส่วนหลักทรัพย์ที่มี มูลค่าของการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่ GPSC ที่มีมูลค่าของการซื้อขาย 2,071.14 ล้านบาท ปิดที่…

Read More

ปิดเช้าลบ 2.87 จุด แข็งแกร่งกว่าภูมิภาคที่ Panic สงครามการค้า คาดรับแรงหนุน

ปิดเช้าลบ 2.87 จุด

ปิดเช้าลบ 2.87 จุด ของตลาดหุ้นไทยที่ปิดไปในระดับที่ 1,564.76 จุด ที่ลดลง ไปกว่า -0.18% ที่มีมูลค่าการซื้อขาย ไปกว่า 22,817.13 ล้านบาท ปิดเช้าลบ 2.87 จุด ของการซื้อขาย ช่วงเช้านี้ ที่ดัชนีหุ้นไทย มีความเคลื่อนไหวทั้ง บวก-ลบ โดยที่ทำระดับของดัชนีสูงสุดอยู่ที่ 1,570.39 และทำระดับต่ำสุดอยู่ที่ 1,556.51 จุด ที่นาย ถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ และหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล. เคที ซีมิโก้ ที่ได้มีการกล่าวว่า ทางตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้านี้ นั้นแข็งแกร่ง กว่าตลาดหุ้นใน ภูมิภาคเอเชีย ที่ต่างก็ติดลบ โดยเฉพาะที่ ทางแถบเอเชียเหนือ นั้นก็ปรับตัวลงค่อนข้างมาก เหมือนกันกับ ทางสหรัฐอเมริกา ที่เป็นการ Patic กับประเด็นการทำสงครามทางการค้า หลังจากประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ส่งสัญญาณ ว่าการทำข้อตกลง ทางการค้าอาจจะล่าช้า ไปจนกว่าจะมีการเลือกตั้ง ในช่วงเดือน พ.ย. 2563 ที่ทำให้ผลกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มปิโตรเคมี และกลุ่มอิเลคทรอนิกส์ ก็อาจจะจะได้รับผลกระทบไปด้วย แนวโน้มทางการลงทุนในช่วงบ่าย ที่ได้มีการกล่าวว่า ทางตลาดฯยังคงแกว่งตัวในกรอบ โดยที่มีแนวรับ 1,570-1,580 จุด ที่พร้อมจะติดตาม การประชุมสภาผู้แนวราษฎร ในช่วงบ่ายนี้ ที่ชี้เสถียรภาพของรัฐบาล และยังติดตามการประชุมกลุ่มโอเปก วันที่ 5-6 ธันวาคม 62 ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่า การซื้อขาย สูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่ KBANK ที่มีมูลค่าการซื้อขาย 1,444.51 ล้านบาท ปิดไว้ที่ 147.00 บาท…

Read More

ภาวะตลาดหุ้นไทย ที่ปิดลบ 3.13 จุด เมื่อช่วงเช้า เหมือนกับตลาดหลักทรัพย์ฯ

ภาวะตลาดหุ้นไทย

ภาวะตลาดหุ้นไทย ที่ทางตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดไปในที่ระดับ 1,637.75 จุด 3.13 จุด หรือ -0.19% ที่มีมูลค่าของการซื้อขายไป กว่า 24,674.50 ล้านบาท การซื้อขายหุ้นของช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยได้มีการเคลื่อนไหว ทั้งในแดนบวก และลบ  โดยที่ดัชนี ที่ทำระดับสูงสุด อยู่ที่ 1,642.09 จุด และทำระดับต่ำสุด อยู่ที่ 1,634.50 จุด โดยที่ นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายตลาด บล.ธนชาต ได้กล่าวไว้ว่า ตลาดหุ้นไทย เช้านี้เผชิญแรง Take prafit  หลังจากที่เมื่อวานนี้ปรับตัวขึ้นไปถึง 17 จุด ได้ขานรับการเจรจาการค้าของสหรัฐ-จีน ที่เตรียมยกเลิกภาษีนำเข้า แต่ละฝ่ายตามสัดส่วนในแต่ละเฟส ที่ทำใหหุ้นที่ขึ้นนำตลาดฯเมื่อวานนี้ นั้นได้ถูก Take prafit ออกมา ภาวะตลาดหุ้นไทย ส่วนหนักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ มีดังนี้ PTTGC ที่มีมูลค่าการซื้อขาย ไปถึง 998.40 ล้านบาท ปิดไปที่ 55.25 บาทไทย ที่ลดลง 1.00 บาท   PTT มูลค่าการซื้อขาย 980.46 ปิดไปที่ 45.75 บาท มราบดลง 0.25 บาท นอกจากนี้ อัตราผลการตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ Bond yield อายุ 10 ปี ล่าสุดที่ได้มีการขยับขึ้นมา 1.96 % ส่งผลให้นักลงทุนเทไปที่ขาย กระแสเงินทุนจึงไหลออกจากสินทรัพย์ ปลอดภัยย้ายเข้าสู่สินทรัพย์ เสี่ยงมากขึ้น ที่เห็นได้จากดาวโจนส์ ราคาน้ำมัน ตลาดในยุโรป…

Read More