WHART ที่เพ็งเล็งกู้เงิน-ออกหุ้นกู้ ใช้ซื้อสินทรัพย์เพิ่ม 3.23 พันลบ. ใน Q4/63

WHART

 WHART หรือ บริษัท ดับบิวเอชเอ เรียล เอสเตท แมนเนจเม้นท์ จำกัด ที่อยู่ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ เพื่อการลงทุนในอสังค์หาริมทรัพย์ และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรี่เมี่ยม โกรท เตรียมลงทุนซื้อสินทรัพย์เพิ่ม ซึ่งมีมูลค่าโดยรวมมากกว่า 3.23 พันล้านบาทในช่วงปลายปีนี้ โดยเป็นคลังสินค้าให้เช่าทั้งหมด 3 แห่ง คิดเป็นพื้นที่รวมมากกว่า 12900 ตารางเมตร

กอง WHART เปิดคลังสินค้าให้เช่าทั้งหมด 3 แห่งได้แก่
คลังสินค้า WHA Mega Logistics Center แหลมฉบัง1 พื้นที่รวม 19,600 ตารางเมตร

คลังสินค้า WHA Mega Logistics Center แหลมฉบัง 2 พื้นที่รวม 45,000 ตารางเมตร

และคลังสินค้า WHA KPN Mega Logistics Center สาขาบางนา-ตราด กม.23 พื้นที่รวม 64,400 ตารางเมตร โดยมีการคาดการว่าบริษัทจะซื้อสินทรัพย์เข้ามาเสร็จสิ้นในช่วงไตรมาส 4/63

สำหรับแหล่งเงินทุนที่จะนำมาใช้สำหรับการซื้อสินทรัพย์ในครั้งนี้ ส่วนใหญ่มาจากเงินกู้สถาบันการเงินและการออกหุ้นกู้เพื่อรองรับสำหรับใช้ในการซื้อสินทรัพย์ใหม่เข้ามา และเพื่อให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุดกับผู้ถือหน่วยลงทุน ทางบริษัทจึงไม่มีการเพิ่มเงินลงทุนในครั้งนี้ โดยมีมาตการลดสัดส่วนการลงทุนในกอง WHART ลง และหลังจากที่เสร็จสิ้นการซื้อสินทรัพย์แล้ว บริษัทจะมีพื้นที่ให้เช่าสำหรับสินค้าและโรงงานรวมทั้งหมด 1.4 ล้านตารางเมตร จากเดิมอยู่ที่ 1.28 ล้านตารางเมตร

ในส่วนของอัตราการเช่าพื้นที่ของคลังสินค้าและโรงงานที่จะเพิ่มเข้ามาในปลายปีนี้ บริษัทมีนโยบายรักษาระดับอัตราการเช่าให้ไม่ต่ำกว่า 90% จากปัจจุบันที่มีอัตารวมการเช่ารวมสำหรับสินทรัพย์ในกองอยู่ที่ 91.9% โดยสินทรัพย์ใหม่ที่จะเข้ามาในปลายปีนี้ทั้งหมด 3 แห่ง มีอัตราการเช่ารวมอยู่ที่ 82% และคาดว่าจะมีการเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากยังมีลูกค้าชาวต่างชาติอีกมากที่กำลังอยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญาส่งมอบพื้นที่ แต่เนื่องจากสถานการ์ณโควิด-19 ทำให้อาจมีการส่งมอบพื้นที่ล่าช้าออกไปบ้าง

สำหรับผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อกอง ดับบลิวเอชเอ พรี่เมี่ยม จากสถานการ์ณโควิด19 ในช่วงไตรมาสแรกของปี 63 ที่ผ่านมายังไม่มีผลกระทบใดๆเกิดขึ้น แต่ผลกระทบที่เห็นผลชัดเจนจะอยู่ในช่วงต้นไตรมาสที่ 2/63 ซึ่งเป็นช่วงที่มีสถานการ์ณโควิดรุนแรงที่สุด ทำให้มีลูกค้าอุตสาหกรรมบางกลุ่มได้ขอยกเลิกสัญญาเช่าไปบางราย แต่หากเปรียบเทียบจากฐานลูกค้าในปีที่ผ่านๆมา ยังถือว่ามีจำนวนน้อย เพราะอยู่ในวิสัยที่บริษัทยังสามารถหาลูกค้ารายใหม่เข้ามาทดแทนได้ อีกทั้งบริษัทมีการกระจายกลุ่มฐานลูกค้าที่หลากหลายจึงทำให้ไม่ได้รับผลกระทบจากลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมมากนัก

อย่างไรก็ตามในส่วนแนวโน้มรายได้ของบริษัทในปีนี้มีทิศทางการเติบโตที่ดีขึ้นมากกว่าปีก่อน ซึ่งมีรายได้รวมอยู่ที่ 2.26 พันล้านบาท เนื่องจากมีการเพิ่มสินทรัพย์ใหม่เข้ามา 3 แห่งในช่วงปลายปีนี้ คาดว่าจะทำให้สามารถเสริมรายได้ให้เพิ่มขึ้นราวๆ 300 ล้านบาท ต่อปี และการเปิดคลังสินค้าใหม่นี้ทำให้มีลูกค้าใหม่เข้ามาเช่าพื้นที่เพิ่มขึ้นแทนที่ลูกค้าเดิมที่ยกเลิกสัญญาเช่าไป ทำให้แนวโน้มการเติบโตของรายได้บริษัทยังสามารถเพิ่มขึ้นได้อีก นอกจากนี้บริษัทยังวางแผนลงทุนซื้อสินทรัพย์ใหม่เพิ่มเฉลี่ย 3-5 พันล้านบาท/ปี เพื่อทำให้พอร์ตของกอง ดับบลิวเอชเอ พรี่เมี่ยม เติบโตขึ้นไปอีกด้วย

cr. ufa777

Related posts