DOD เชื่อว่าแนวโน้มผลงานปี 63 ดีขึ้นตามกลุ่มผลิตอาหารเสริม

DOD

DOD หรือ บมจ. ดีโอดี ไปโอเทค โดยนางสาว สุวารินทร์ ก้อนทอง รักษาการประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน ได้กล่าวไว้ว่า ทางภาพรวมของทางบริษัท ฝนปี 2563 ที่มองว่า มีแนวโน้มการปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น โดยที่จะเห็นได้จาก ยอดขายของการผลิตสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์ อาหารเสริม ที่ทยอยเข้ามาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากบริษัท อัลทิมา ไลฟ์ จำกัด

ที่ DOD ถือหุ้นอยู่กว่า 80%

ซึ่งจะต้องดำเนินธุรกิจในรูปแบบขายตรง ภายใต้ผลิตภัณฑ์ดสริมอาหาที่เน้นสารอาหารธรรมชาติทั้งหมด อาทิ One Whey เวย์โปรตีน , Levarean (เลวาวีน) , Prepo Fiber and Detox (เพรโป) , Callox (แคลล็อกซ์) , Zinegra (ซิเนกร้า) , DODH .coffee (ดีโอดี เอช คอฟฟี่) และ R3verse Vine (อาร์3เวิสวายน์)

โดย ล่าสุด บมจ. ดีโอดี ไปโอเทค ได้มีออเดอร์ใหม่เข้ามาแล้วในไตรมาส 1/63 มูลค่ารวมกว่า 320 ล้านบาท ซึ่งเติบโตเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าตัว เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/62 ที่มีรายได้รวม อยู่ที่ประมาณ 120 ล้านบาท โดยที่แบ่งเป็นรายได้ อัลทิมา ไลฟ์ 130 ล้านบาท และยังเป็นรายได้จาก บริษัท พีซีซีเอ แล็บบอราเทอรี่ จำกัด (PCCA) ซึ่งจะดำเนินธุรกิจ ผลิตผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและสกินแคร์ แบบครบวงจร ซึ่งเป็นการลงทุนผ่านทาง บริษัท ดีโอดี เฮ้ลท์ตี้ไลฟ์ จำกัด (บมจ. ดีโอดี ไปโอเทค ถือหุ้นอยู่ 99.99%) มูลค่าประมาณ 20 ล้านบาท

ในส่วนแนวโน้มผลประกอบการในช่วงที่เหลือของปีนี้ ยังถูกมองว่า ธุรกิจยังมีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง และยังคงจะสามารถกลับมาสร้างความโดดเด่นได้อีกครั้ง เนื่องจากบริษัท ที่จะรับรู้รายได้จากบริษัทย่อย ที่มีการลงทุนไป ในช่วงปีที่ผ่านมา ซึ่งจะสอดคล้องกับ ทางกลยุทธ์พัฒนาการให้บริการ ในรูปแบบ One Stop Service Solution ที่จะนำไป สู่การเป็นผู้นำธุรกิจผลิตผลิตภัณฑ์ความงามและสุขภาพ อีกทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและสกินแคร์ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแบบครบวงจร ให้ในระดับภูมิภาคเอเชีย (Regional) และก้าวไปสู่ระดับโลก (Global) ในอนาคต

และสำหรับผลประกอบการปี 2562 ที่บริษัท มีรายได้รวมมูลค่า 797.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 124.38 ล้านบาทหรือ เติบโต 18.48% เมื่อเทียบกับปีก่อน ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 673.12 ล้านบาท เนื่องจาก บมจ. ดีโอดี ไปโอเทค มีรายได้จากกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ผลิตเครื่องสำอาง และกลุ่มธุรกิจเครือข่าย ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ของ บมจ. ดีโอดี ไปโอเทค ที่มีอยู่ในแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องตามกลยุทธ์ ของการกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ เพื่อต้องการให้เกิดความมั่นคง และยั่งยืนครอบคลุมทั้งในตลาดด้านสุขภาพและความงาม( Healthy & Beauty)

ในขณะที่บริษัทมีกำไรสุทธิ 73.51 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนลดลง 75.92% และมีอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ในปี 2562 เท่ากับ 51.89% เนื่องจากบริษัทมีต้นทุนค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มธุรกิจเครือข่าย โดยที่เป็นการเพิ่มขึ้นของต้นทุนขายที่สอดคล้อง กับรายได้ที่เพิ่มขึ้น และสัดส่วนการขายสินค้า (Product Mix) รวมทั้งต้นทุนขายที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว (One Time ) ดังนั้น ถ้าหากปรับรายการต้นทุนที่เกิดขึ้นครั้งเดียว ที่ออกจากต้นทุนขาย ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นปกติจะเพิ่มขึ้นจาก 51.89% มาเป็น 53.85%

CR. UFABET1688

Related posts