Major ที่พลิกเป็นขาดทุน รายได้ที่ลดลงกว่า 44%

Major

Major หรือ บริษัท เมเจอร์ ซีนีแพล็กซ์ กรุ้ป จำกัดมหาชน ซึ่งเป็นผู้ที่ให้บริการโรงภาพยนต์ชั้นนำของประเทศไทย ที่ก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจาก สถานการณ์แพร่ระบาดของ Covid-19 มากที่สุด Major เป็นธุรกิจโรงภาพยนต์ ที่เมื่อได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดแล้ว หารายได้อื่นมาชดแทนได้ยาก เพราะจะหันไปหาทางออนไลน์ก็ไม่ได้ จะส่งเดลิเวอรี่ก็ไม่ได้ เรียกได้ว่าปิดก็คือปิด จนผลประกอบการนั้น พลิกผันออกมาเป็นขาดทุนกว่า 44% บริษัท เมเจอร์ ที่รายได้นั้นลดลงกว่า 44% หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 1,886 ล้านบาท เหลือเพียง 1.052 ล้านบาท ที่ปรับมาตราฐานทางบัญชีแล้ว ซึ่งเป็นผลกระทบจากการปิดห้างสรรพสินค้า เพียง 10วัน ในช่วงไตรมาสแรก แต่ถึงอย่างไรก็ตาม โรงภำยนต์ก็ได้รับผลกระทบนี้มาล่วงหน้าแล้ว เพราะเป็นสถานที่ที่คนจะเลี่ยง การแออัด ต้นทุนที่ลดลงต้นทุนการขาบที่ลดลงถึง 33% เพราะหลักๆก็คือ ส่วนแบ่งค่าฉายให้เจ้าของหนัง ในเมื่อโรงหนังปิด ทางบริษัท เมเจอร์ ก็จ่ายเพียงค่าส่วนแบ่งลดไปตามสัดส่วนด้วย แต่ก็ไม่สามารถลดได้จนหมด เพราะยังมีส่วนของต้นทุนของค่าสถานที่ต่างๆ มาประกอบอยู่ด้วย ค่าใช้จ่ายในการขาย และบริหารที่ลดลงไม่มากนัก กำไรจากเงินลงที่นั้น ก็ลดลงด้วยเช่นกัน เพราะบริษัท เมเจอร์ ก็มีเงินลงทุนใน SF หรือ สยามฟิวเจอร์ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) และยังเป็นธุรกิจ ที่บริหารพื้นที่ห้างสรรพสินค้า ที่ก็ได้รับผลกระทบจะการ Covd-19  นี้ด้วยเช่นกัน ส่วนแบ่งกำไรตรงนี้ ที่ลดลงจาก 89 ล้านบา เหลือ เพียง 72 ล้านบาท หรือ ลดลงกว่า 26% ของในไตรมาสนี้ ภาพรวมของช่วงไตรมาสที่ 2 ที่ผลรวจากช่วงไ  ตรมาที่1 นั้นได้รับผลกระทบอย่างหนักเนื่องจากการปิดห้าง ประมาณ 10 วัน แต่ในไตรมาสที่สองนั้น…

Read More

Word markets สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน และทองคำ

Word markets

Word markets การผันผวนของปัยจจัยรอบๆ เกิดโดนผลกระทบจาก Covid-19 ที่นำไปสู่ภาวะของ ตลาดหุ้น น้ำมัน และทองคำ เมื่อในวันที่ 2 มิถุนายน 63 Word markets ความผันผวนของหุ้นและสกุลเงิน ดัชนีดาวโจนส์ หุ้นนิวยอร์ก ที่ปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืน ของวันที่ 2 มิถุนายน 63 โดยที่ดาวโจนส์นั้นปิดไปในแดนบวกติดต่อกัน2วัน ที่เนื่องจากนักลงทุนนั้นยังคงมีความเชื่อมั่นว่าจะคลายมาตราการล็อกดาวน์ ของทางสหรัฐที่จะเป็นปัจจัยหนุนที่ทำให้เศรษฐกิจจะฟื้นตัว แม้ว่าในขณะนี้ที่กำลังเผชิญกับปัญหาการประท้วงกันอย่างรุนแรง ที่นอกจากนี้ทางตลาดก็ยังได้แรงหนุน จากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน และหลังจากที่ราคาของ นำมันดิบ WTI นั้นก็ดีดขึ้นถึง 4% ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ที่ปิด 25,742.65 จุด พุ่งขึ้น 267.63 จุด หรือ +1.05% ในขณะที่ ดัชนี Nasdaq ที่ปิดไว้ที่ 9,608.38 จุด ที่เพิ่มขึ้น 56.33 หรือ +0.59% ที่ส่วนของดัชนีปิดบวกที่ 25.09 จุด หรือ +0.82% โดยที่ตลาดหุ้นยูโรปนั้นปิดบวกเมื่อคืนวันที่ 2 มิถุนายน ที่ข่นรับมุมมองบวกว่า เศรษฐกิจในหลายประเทศของทางยุโรปนั้นจะฟื้นตัวไปเมื่อหลังจากที่ทางรัฐบาลผ่อนคลาย มาตรการ lockdown ที่นอกจากนี้ดัชนีทางภาคการผลิตที่ดีดีตัวขึ้นในหลายประเทศ ยังคอยช่วยให้กลุ่มของนักลงทุนนั้นมีความหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก สัญญาน้ำมันดิบ ของ WTI ที่ถูกส่งมอบในเดือน กรกฎาคม นั้นเพิ่มขึ้นมา 1.37 ดอลลาร์ หรือ +3.9% ที่ปิดไว้ที่ 36.81 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดที่สูงสุด นับตั้งแต่วันที่ 6 มีนาคม ของปีนี้ สัญญาน้ำมันดิย เบรนด์ ที่ส่งมอบเมื่อเดือน สิงหาคม ที่เพิ่มขึ้นกว่า 1.25…

Read More